บล็อคประกอบการเรียนการสอนวิชา อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

หลากความรู้ด้านสุขภาพ


3 ท่านอน ลดอาการปวดหลัง

       ความเครียด น้ำหนักส่วนเกิน การยกของผิดวิธี และท่านอนที่ไม่เหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังได้นะคะ คณะผู้เชี่ยวชาญจากมาโยคลินิก (Mayo Clinic) แนะนำ 3 ท่านอนที่จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังดังนี้ค่ะ
   1. นอนตะแคงข้างก่ายหมอน นอนตะแคงข้างที่ถนัด หนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เข่าที่อยู่ด้านบนแตะที่นอน มิเชิ่นนั้นกระดูกสันหลังส่วนล่างจะพลิก ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้


   2. นอนหงายหนุนเข่า นอนหงายหนุนหมอนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบายโดยวางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ท่านี้เหมาะสำหรับผู้มีอาการปวดหลังที่ไม่รุนแรงมากนัก
   3. นอนคว่ำหนุนหน้าท้อง หากคุณไม่สามารถนอนท่าอื่นๆ ได้ และจำเป็นต้องนอนคว่ำ ให้นอนหนุนหมอนบริเวณช่วงคอและหน้าอกส่วนบน โดยหันใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และนำหมอนหนุนอีกใบวางไว้ใต้บริเวณสะโพก เพื่อผ่อนคลายความตึงของแผ่นหลัง และหากยังรู้สึกตึงหรือเจ็บปวดอยู่ให้นำหมอนหนุนที่ศีรษะออก ถนอมหลังของคุณโดยการยกสิ่งของด้วยท่าท่างที่ถูกต้อง และออกกำลังกายด้วยการรำกระบองเป็นประจำ เป็นวิธีป้องกันอาการปวดหลังได้ดีเยี่ยม



กินถั่วเมล็ดรูปไต ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก


    ถั่วเมล็ดรูปไต อันได้แก่ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วกันเนลกินี ถั่วปินโต และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่คนไทยอย่างเราๆ คุ้นเคยหาซื้อง่าย ราคาสบายกระเป๋า ก็คือ ถั่วแดง และถั่วดำ
สรรพคุณโดดเด่นของถั่วเมล็ดรูปไตคือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูก ลดระดับคอเลสเตอรอล รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะเส้นใยที่มีมากในถั่วช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ทำให้ร่างกายมีพลังงานสม่ำเสมอ
สารลิกแนน สารชาโปนิน และสารยับยั้งโปรทีเอสในถั่วเมล็ดรูปไต ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก


Tips
• เพื่อลดปริมาณก๊าซของถั่วเมล็ดรูปไต จากคาร์ดบไฮเดรต ที่ชื่อ โอลิโกแซคคาไรด์ ควรนำถั่วไปแช่น้ำและเทน้ำทิ้งก่อนนำไปปรุงอาหาร
• เพิ่มความสะดวกในการนำถั่วมาประกอบอาหาร โดยการต้มถั่วครั้งละมากๆ แล้วแบ่งใส่ถุงเล็กๆ เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง
• นำถั่วที่ต้มแล้วมาบดผสมกับน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไท ใช้ทาแซนด์วิชแทนมายองเนส ได้ประโยชน์พร้อมความอร่อย


อายุยืนได้ ด้วยใยอาหาร
 
   เพราะนอกจากจะมีส่วนช่วยใน การทำงานของระบบขับถ่ายแล้ว งานวิจัยเรื่องหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า ใยอาหารยังมีส่วนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการป่วยเป็นโรคต่างๆ ลงได้

Yikyung Park นักวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า การกินอาหารซึ่งอุดมด้วยใยอาหารอย่างน้อยวันละ 25 กรัม หรือประมาณ 14 กรัม ต่อพลังงาน 1,000 แคลอรี่

นอกจากจะช่วยลดอัตราการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และมะเร็งบางชนิดได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อ และโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ งานวิจัยระบุว่า จะต้องเป็นใยอาหารที่ได้จากธัญพืช อาทิ เส้นสปาเกตตีโฮลวีต ข้าวบาร์เลย์ ถั่วฝักยาว ถั่วปากอ้า ถั่วดำ บรอคโคลี ฯลฯ เท่านั้น 



                     4 สาเหตุ อาการอาหารไม่ย่อย
        อาหารไม่ย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการกิน
    ลองมาเช็คกันค่ะว่า พฤติกรรมการกินดังกล่าวมีอะไรบ้าง
  1.รีบ เร่งกินอาหาร ทำให้น้ำย่อยหลั่งได้น้อยลง รวมถึงเมื่อเร่งรีบกินจึงเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดแล้วกลืนทันที ทำให้เอนไซม์ในน้ำลายย่อยอาหารไม่ทัน
  2.กินมากเกินไป ทำให้อาหารเต็มกระเพาะอาหาร จึงเสียเวลาย่อยนาน และทำให้เกิดการล้นของกรดในกระเพาะอาหาร
  3.กิน ผลไม้หลังจากกินอาหารที่มีไขมันมาก โดยกระเพาะอาหารจะใช้เวลาในการย่อยไขมันช้ามาก ทำให้ผลไม้ที่กินเข้าไปทีหลังค้างอยู่นาน จนเริ่มบูดเน่าก่อนจะได้ย่อย จึงทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และมีอาการจุกแน่นท้องตามมา
  4.ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวจะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากเกินไป
     
                                                   


ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารชีวจิต   http://www.cheewajit.com/
ภาพจากเว็บอินเตอร์เน็ต

ฝรั่ง กับประโยชน์ที่หลากหลาย

ด้านบทความ

  ที่ปรึกษาด้านโภชนาการของ "คลินิกหมออาหาร" นายเอียน มาร์บอร์ ของสหรัฐฯ เผยว่า ฝรั่งอุดมด้วยวิตามินซี อันเป็นสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ในการสังเคราะห์คอลลาเจนของร่างกาย ในฐานะโปรตีนสำคัญ ของโครงสร้างผิวหนังอย่างหนึ่ง ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง ช่วยป้องกันรักษาผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระ และ "ฝรั่งยังอุดมด้วยสาร โพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในชาเขียวและไวน์แดง ป้องกันรักษาเซลล์จากอนุมูลอิสระ และรักษาบูรณภาพของเซลล์ ที่สำคัญมันจะช่วยชะลอร่องรอยของความแก่ชราของผิวหนัง โดยลบรอยเหี่ยวย่น และส่งเสริมความอวบอิ่มและทำให้ดูผิวงาม"


คุณค่าทางอาหาร

    คุณค่าทางอาหารประกอบด้วย วิตามินเอ วิตามินซี B1 B2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ ช่วยให้มีความต้านทานต่อโรคหวัดเพิ่มขึ้น บำรุงเหงือกและฟัน  ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
สารเพคติน (PECTIN)  เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ท้องผูกได้ดี
สารแทนนิน (TANNIN)  มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมาน สามารถบรรเทาอาการท้องร่วงและห้ามเลือดได้  ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาหารเจ็บคอ นอกจากนี้ยังช่วยระงับกลิ่นปากและรักษาแผลเรื้อรังเช่น น้ำกัดเท้า และผื่นคันจากผิวหนังที่ถูกใบไม้คันได้ด้วย
          นอกจากนี้ยังมีการแนะนำให้รับประทานฝรั่งเพื่อลดความอ้วนเพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีความกรอบ เคี้ยวเพลิน และไม่เพิ่มน้ำหนักเพราะเหตุฝรั่งเต็มไปด้วยกากใย จะทำให้อิ่มทน และกำจัดท้องร้องเพราะความหิว "กากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ คงที่ ซึ่งเท่ากับช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้พอดี  และ ยัง สามารถเอาฝรั่งมารักษาสิวและผิวหน้าของเราให้เกลี้ยงเกลาได้โดย การเอาเนื้อฝรั่งมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในเครื่องปั่นไฟฟ้า ใส่น้ำสะอาดลงไปเล็กน้อย ปั่นให้ละเอียด แล้วนำไป ใช้ได้ ( หากเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นจะเอาเก็บไว้ใช้ได้นาน ๆ )

    สำหรับ วิธีการใช้ก็ไม่ยากเลย ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำธรรมดาเสียก่อน แล้วนำเอาเนื้อฝรั่งที่ปั่นละเอียดแล้วมาพอก ทา ให้ทั่วทั้ง ใบหน้า ปล่อยทิ้งเอาไว้สัก 10 นาที หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำธรรมดา เราจะสังเกตได้ทันทีว่า ผิวหน้าที่ได้รับการพอก ทา ด้วยเนื้อฝรั่งจะมีความเกลี้ยงเกลา และรู้สึกเต่งตึง สดชื่น ได้ทันที
ให้ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผิวหน้าของเราก็จะมองดูสดใสและนวลเนียนดีมาก ไม่ต้องไปหาซื้อครีมบำรุงผิวราคาแพงมาพอก หน้า หรือทาหน้าเลย


ที่มา : ไทยรัฐ
           อยู่ดีวิถีชาวบ้าน
          

กล้วยหอม กับประโยชน์ที่น่าทึ่ง

กล้วยหอมยอดผลไม้มหัศจรรย์

กล้วยหอมมี สารน้ำตาลอยู่  3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตสและกลูโคส (sucrose, fructose and glucose)  รวมทั้งเส้นใยอาหาร  มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยครับ 
เขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม  2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง  90  นาที  ไม่ต้องสงสัยเลยนะครับ นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก  (เคยเห็นในสนามเทนนิส....พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก 2-3  คำ)
 ความเศร้าซึม จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอมเพราะว่ามัน tryptophan  ซึ่งเป็นกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกาย สา มารถแปลงเป็น serotoninสารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น

pms (premenstrual syndrome) สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย เช่น ปวดท้อง ปวดหัว ฯลฯ รีบกินกล้วยหอมซะดี ๆ  ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย มัน สามารถป้องกันได้

โรคโลหิตจาง (Anemia)ธาตุเหล็กในกล้วยหอม สา มารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิต Hemoglobin ( ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะโลหิตจางได้  แต่คงไม่ช่วยแก้โรคทรัพย์จางได้หรอกนะ

ความดันโลหิต (Blood Pressure)กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองอยู่เยอะ เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug inistration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริง

เสริมสร้างพลังสมอง ( Brain Power)ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham schoolอ้างว่าพวกเขาสอบผ่านเพราะได้กิตกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมองสดชื่น  เขาได้วิจัยพบว่าโปแตสเซียมในกล้วยช่วยนักเรียนให้ตื นตัวอยู่เสมอ

อาการท้องผูก (Constipation) เส้นใยอาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

เมาค้าง (Hangovers)วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่งก็คือกินกล้วยหอมปั่น banana milkshake โดยการใส่น้ำผึ้งลงไปด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งและ สารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือดและทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็วขึ้น

จุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)กล้วยหอมมี สารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว

อาการแพ้ท้อง Morning Sicknessถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2  คำระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น มันจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและแก้อาการ  crhmhv’

บรรเทาแผลยุงกัดก่อนที่จะใช้ยาทาลองใช้เปลือกกล้วยหอมด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัดจะช่วยลดอาการคันหรือบวมได้ คนส่วนใหญ่เป็นอย่าง นั้นจริง ๆ

ระบบประ สาท (Nerves)วิตามินบีที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียด อ่อนล้าได้

อ้วนจากทำงานมากเกินไปที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่าความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกินช็อกโกแล็ต และพวกโปเต้โต้ชิปส์มากเกินไปทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น  จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณทุก ๆ 2 ชม.จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและลดการอยากกินของจุกจิก

แผลในลำไส้และกระเพาะอาหารรวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผล (PepticUlcers)สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เ ล็กดีขึ้นรวมทั้งกรดต่างๆที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้ ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control)ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อนผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงท้องควรกินกล้วยหอมเป็นประจำเพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็น เป็นต้น

ลดความอยากสูบบุหรี่สำหรับท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมีวิตามิน B6, B12 โปแตสเซียมและแม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาด สารนิโคติน



    เมื่อเปรียบเทียบกับแอปเปิลแล้ว กล้วยหอมมีโปรตีนมากกว่า  4  เท่า  มีคาร์โบไฮเดรทมากกว่า  2  เท่า  ฟอสฟลอรัสมากกว่า  3  เท่า  วิตามินเอและธาตุเหล็กมากกว่า  5  เท่า  วิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ มากกว่า 2  เท่า


อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.horapa.com/content.php?Category=Healthy&No=1078

ออกกำลังกายกันเถอะ

วันนี้เรามีวีดีโอสอนเต้นแอโรบิกแบบสนุกๆไว้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกันค่ะ  ไปเต้นกันเลย













ขอบคุณจาก : www.youtube.com

กระชับสัดส่วนด้วย 6 วิธีออกกำลังกายง่ายๆ

        ด้วย 6 วิธีออกกําลังกายนี้นอกจากจะทำให้หุ่นเฟิร์ม กระชับ ทุกสัดส่วนแล้วประเด็นหลักของวิธีออกกําลังกายนี้ต้องการให้คุณนั้นมีหน้าท้องแบนราบ ไหล่และแขนเข้ารูป ต้นแขนกระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ขาเรียวสวย สะโพกกลมกลึง ระบบไหลเวียนในร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญนะค่ะวิธีออกกําลังกายนี้ยังไม่ยุ่งยากแถมใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้นค่ะ  เริ่มกัที่

1.หน้าท้องแบนราบ

       เริ่มด้วยการนอนคว่ำลงกับพื้นให้แขนด้านในและหัวเข่าชิดพื้นไว้ จากนั้นค่อย ๆ ชันศอกทั้งสองข้างขึ้นยันพื้นไว้โดยให้แขนทั้งสองข้างนี้แยกออกจากกัน ความกว้างประมาณสะโพก พร้อมกันนั้นให้ใช้ปลายนิ้วเท้ายันพื้นไว้ให้ลำตัวลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อยออกแรงบริเวณหัวไหล่กดลำตัวลงสู่พื้น พยายามเกร็งนิ้วเท้าและแขนด้านในไว้อย่าให้ลำตัวติดพื้น กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องจะตึงขึ้นทรงตัวให้อยู่ในท่านี้ประมาณ 30 วินาที ทำซ้ำประมาณ 3-4 ครั้ง หรือให้ครบ 1 นาทีก็ได้

2.แขนและหัวไหล่เข้ารูป

       ท่าชกลมนี้สามารถทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้ไม่แพ้ท่าอื่น ๆ เริ่มด้วยท่ายืนแยกเท้าความกว้างประมาณสะโพก ก้าวขาซ้ายไว้ด้านหน้าขาขวาเล็กน้อยโดยบิดส้นเท้าซ้ายเข้าด้านในเล็กน้อยปลายเท้าขวาหันออกไปด้านหน้า ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นให้ข้อศอกแนบลำตัวไว้กำมือไว้ให้แน่นและวางไว้ในตำแหน่งใต้คาง ปล่อยหมัดขวาแย็บออกไปด้านหน้าพร้อมเหยียดขาขวาให้ตึงด้วย ระหว่างนี้อย่าลืมบิดสะโพกไปด้านขวาเล็กน้อยหมัดที่ปล่อยออกไปพยายามเหยียดให้ตึงและฝ่ามือคว่ำลง จากนั้นให้สลับหมัดเป็นอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วหมัดข้างที่ดึงกลับให้กลับมาไว้ที่ตำแหน่งใต้คางเช่นเดิม

3.ต้นแขนกระชับ

       อุปกรณ์เสริมที่ต้องนำมาใช้สำหรับท่านี้ก็คือ ดัมเบลล์ค่ะ เมื่อเลือกดัมเบลล์ที่เหมาะสมแล้วให้ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกประมาณสะโพก โดยให้ฝ่ามือที่ถือดัมเบลล์หันเข้าลำตัว ก้าวขาขวาไปทางด้านหลังและยกส้นเท้าไว้เหนือพื้นค่อย ๆ งอเข่าขวาลงให้อยู่ในระดับข้อเท้าซ้าย จากนั้นค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาระดับหัวไหล่โดยให้ฝ่ามือหันเข่าหัวไหล่ค่อย ๆ ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะทำซ้ำท่านี้ โดยสลับข้างขาไปเรื่อย ๆ ประมาณ 8-12 ครั้งค่ะ

4.เพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อขา

       นอนหงายบนพื้นราบงอเข่าซ้ายขึ้นค่อย ๆ ดึงหัวเข่าขวาให้ชิดกับหน้าอก จากนั้นค่อย ๆ เหยียดขาขวาขึ้นตั้งฉากกับพื้นช้า ๆ โดยใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณต้นขาไว้ เพื่อช่วยในการทรงตัว ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จากนั้นจึงเริ่มทำซ้ำอีกครั้งโดยสลับทำอีกข้างหนึ่ง
ต้นขาสวย

5.ขาเรียวสวยพร้อมสะโพกกลมกลึง                                            

       ยืนแยกเท้าทั้งสองข้างออกเล็กน้อยวิ่งอยู่กับที่ โดยระหว่างที่วิ่งให้ยกหัวเข่าสูงเท่าที่จะทำได้ แกว่งแขนสลับข้างไปเรื่อย ๆ ในระหว่างการวิ่ง วิ่งไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพื่อกล้ามเนื้อขาและสะโพกที่กระชับมากยิ่งขึ้น
 

6.กระตุ้นระบบไหลเวียนในร่างกาย

       ท่าบริหารนี้ไม่ยากสักเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองค่ะ เพราะท่านี้ก็คือการเต้นสะบัดร่างกายทั้งตัว เพื่อเพิ่มการไหลเวียนในร่างกาย อาจจะเปิดเพลงประกอบลีลาก็ได้ค่ะ เช่น เพลงฮิปฮอป ร็คแอนด์โรล รับรองว่าทั้งสนุกและช่วยให้แข็งแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวค่ะ


อ้างอิงจาก : http://www.n3k.in.th/

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 5 อันดับ

“โลนลี แพลนเน็ต” เผย 5 อันดับประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2011 ซึ่งพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว และนายโทนี่ วีลเลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “โลนลี แพลนเน็ต” โดย


อันดับที่ 1. สาธารณรัฐแอลเบเนีย


    แอลเบเนีย ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ทิศตะวันออกติดมาซิโดเนีย ทิศใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกรีซ ทิศตะวันตกติดทะเลเอเดรียติกและทะเลไอโอเนียน มีเมืองหลวงชื่อ “กรุงติรานา”

เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ดินแดนที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลข่านถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่อง เที่ยวสำหรับคนใจกล้า และมีเพียงสุดยอดผู้กล้าเท่านั้นที่อาจหาญเดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย

แต่หลังจากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มแบคแพค เกอร์เดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย ก็เริ่มมีเสียงร่ำลือกันแบบปากต่อปากถึงหาดทรายที่สวยงาม อาหารแสนโอชะ โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน การท่องเที่ยวผจญภัยในราคาสบายกระเป๋า แถมยังเดินทางท่องเที่ยวแบบ “ไปตายเอาดาบหน้า” โดยที่ไม่มีการวางแผนหรือจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้าได้อย่างสบายใจ เพราะชาวแอลเบเนียมีความเป็นมิตร และคิดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นของแปลกใหม่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนแอลเบเนียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    ปัจจุบัน การท่องเที่ยวแอลเบเนียได้ประกาศแคมแปญ ‘A New Mediterranean Love’ โดยชูมรดกโลก ธรรมชาติที่สวยงาม ความเป็นมิตรของผู้คน วิถีชีวิตในเมืองใหญ่ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจเป็นจุดขาย ส่งผลให้เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในวงกว้าง


อันดับที่ 2 สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล


บราซิล ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีอาณาเขตติดกับทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ยกเว้นชิลีและเอกวาดอร์ มีขนาดใหญ่สุดในลาตินอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับ 5ของโลก เมืองหลวงชื่อ “กรุงบราซิเลีย”
บราซิลมีชื่อเสียงในเรื่อง การเต้นแซมบ้า สโมสรฟุตบอล  โลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์  เทศกาลคาร์นิวาล และงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ แต่ชาวบราซิลยังมีเรื่องน่าดีใจให้เฉลิมฉลองเพิ่มมากขึ้น หลังได้รับเลือกให้เป็นทั้งเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพในปี ค.ศ.2014(พ.ศ. 2557) และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

   ปัจจุบัน บราซิลมีแผนปรับปรุงประเทศครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลกทั้ง 2 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังเตรียมเพิ่มจำนวนห้องพักโรงแรมไว้รองรับนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาทั่วโลกอีกหลายพันห้อง
ที่สำคัญ สายการบินโลว์คอสต์ในประเทศบราซิล ต่างพากันงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด จึงทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศในประเทศบราซิล มีราคาไม่สูงจนเกินเอื้อม

อันดับที่ 3 สาธารณรัฐเคปเวิร์ด

     เคปเวิร์ด เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (นอกชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา) อยู่ห่างจากสาธารณรัฐเซเนกัลทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 10 เกาะ และเกาะเล็ก 5 เกาะ เมืองหลวงชื่อ กรุงไปรอา

ที่ผ่านมา เคปเวิร์ดไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ระยะหลังๆ ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปมากขึ้น จนชาวเคปเวิร์ดเองก็ยังนึกแปลกใจว่าประเทศของตนมีดีอะไร นักท่องเที่ยวจึงพากันดั้นด้นเดินทางไปเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ

คำตอบก็คือ…ประเทศนี้มีภูเขาสูงชันสีเขียว ที่สวยงามแปลกตา, ยอดภูเขาไฟสูงเทียมเมฆ, กีฬาทางน้ำระดับเวิลด์คลาส, เทศกาลสุดเร้าใจ ฯลฯ แต่สิ่งที่โดนใจนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นพิเศษก็คือ มี “แสงแดด” ตลอดทั้งปี และมีหาดทรายอ่อนนุ่ม จึงเหมาะสำหรับเดินทางไปเที่ยว “หนีหนาว” ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวเคปเวิร์ดจึงโปรโมทประเทศของตนว่าเป็น “หมู่เกาะคานารีแห่งใหม่” เทียบชั้น “หมู่เกาะคานารี” ของประเทศสเปนเลยทีเดียว

อันดับที่ 4 สาธารณรัฐปานามา

   ปานามา ตั้งอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของอเมริกากลาง ทิศเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศใต้ติดทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดคอสตาริกา ส่วนทิศตะวันออกติดโคลอมเบีย มีเมืองหลวงชื่อ ปานามาซิตี้

ปานามา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วสุดในแถบลาตินอเมริกา ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปานามาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดราคาและภาษีให้ผู้มาเยือน ตลอดจนผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ

   นอกจากนี้ ปานามายังมีจุดขายหลายอย่างโดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่างๆ กิจกรรมเดินป่า อีโคทัวร์ โบราณสถาน กระท่อมพื้นทรายที่กูนายาลา และเนื่องจากพื้นที่หลายแห่งในปานามายังคงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ไม่ได้รับ การพัฒนา บางเส้นทางจึงต้องเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ หรือไม่ก็รถบัสเป็นระยะทางไกลๆ

และในปีหน้าเมืองใหญ่อย่าง “ปานามาซิตี้” จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว เพราะเป็นที่ตั้งของ “ไบโอ มิวเซียม” ที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของปานามา ทั้งยังมีสวนและสนามหญ้าริมถนนเลียบชายฝั่ง “ซินตา คอสเตรา” ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปจนถึง “กัสโกเวียโฮ” อีกด้วย

ปานามา ยังเป็นที่ตั้งของป่าดิบชื้น (นอกป่า่ลุ่มน้ำอะเมซอน) ขนาดใหญ่สุดในซีกโลกตะวันตก ซึ่ง มีพืชพรรณ สัตว์ป่า และนกอุดมสมบุรณ์ แถมพืชและสัตว์บางชนิดยังหาดูที่อื่นไม่ได้ เพราะมีถิ่นอาศัยอยู่ในปานามาเท่านั้น

     แม้ว่า “กบพิษสีทอง” ความยาว 1 นิ้วที่มีถิ่นอาศัยในป่าของประเทศปานามา จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อราจนจำนวนลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่ “ดาเรียง แก๊ป (Darién Gap)” ซึ่งเป็นป่ารกชัฏและพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่กั้นกลางระหว่างจังหวัดดาเรียงของปานามา (อเมริกากลาง) และประเทศโคลอมเบีย (อเมริกาใต้) ยังคงเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ที่ไม่เคยได้รับการพัฒนาและไม่มีการตัดถนนผ่านเหมือนเช่นเคย

    ความจริงแล้ว “ดาเรียง แก๊ป” เปรียบเสมือนประตูเชื่อมต่อระหว่างอเมริกาเหนือ กลาง และใต้เข้าด้วยกัน แต่ปัจจุบัน ทางการปานามาก็ยังไม่คิดที่จะตัดถนนในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลและสภาพภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย จึงทำให้ถนนสายแพน-แปซิฟิกที่ตัดผ่านอเมริกาเหนือ กลาง และใต้ ขาดตอนเป็นระยะทาง 87 ก.ม. แต่ยังคงเดินทางต่อได้โดยใช้รถจักรยานเสือภูเขา มอเตอร์ไซค์วิบาก หรือไม่ก็เดินเท้า ซึ่งจะต้องลุยป่า ลุยน้ำ และเส้นทางสูงชัน แถมยังมีแมลง และสัตว์เลี้อยคลานชุกชุม

นอกจาก “ดาเรียง แก๊ป” ที่เป็นป่ารกชัฏแล้ว ปานามายังมีเกาะรกร้างที่ไม่เคยได้รับการพัฒนา ไม่มีการตั้งชื่อ หรือไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เป็นจำนวนหลายเกาะด้วยกัน

อันดับที่ 5 สาธารณรัฐบัลแกเรีย

บัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือติดโรมาเนีย ทิศตะวันออกติดทะเลดำ ทิศตะวันตกติดเซอร์เบีย มอนเตเนโก และมาซิโดเนีย ทิศใต้ติดกรีซและตุรกี มีเมืองหลวงชื่อ กรุงโซเฟีย

ประเทศบัลแกเรีย มีจุดขายหลายอย่างที่โดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดในประเทศอย่าง “โซเฟีย”, ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ, สุดยอดลานสกีที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ, หาดทรายสีทอง และเมืองท่าโบราณริมทะเลดำ

   ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บัลแกเรีย ถูกบดบังรัศมีโดยประเทศเพื่อนบ้านที่ล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ และมีชื่อเสียงมากกว่าอย่าง ตุรกี กรีซ และ โรมาเนีย แต่หลังจากรัฐบาลชุดปัจจุบันประสบความสำเร็จในการนำบัลแกเรียเข้าเป็นสมาชิก สหภาพยุโรป (อียู) ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

   ทุกวันนี้ บัลแกเรีย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในแถบยุโรปมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลานสกี” ที่เป็นจุดหมายปลายทางสุดฮอตของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ต้องการท่องเที่ยว แบบถูกใจสบายกระเป๋า แต่ถ้าใครชอบเที่ยวทะเล ที่นี่ก็มีชายหาดริมทะเลดำให้นอนอาบแดด หรือถ้าชอบจิบไวน์ บัลแกเรียก็มีไวน์รสชาติเยี่ยม (ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ) ให้ลิ้มลองเช่นกัน


อ้างอิงจาก : http://paow007.wordpress.com/

ประโยชน์ดีๆกับ บลูเบอรี่

 
   
     บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีผิวสีน้ำเงินเข้ม Blueberry เป็นไม้พุ่ม มี 2 ชนิด คือ ชนิดพุ่มสูงที่ปลูกกันตามบ้าน และชนิดพุ่มเตี้ย หรือ Blueberry ป่าคนไทยไม่ค่อยนิยม เพราะเป็นผลไม้ในเมืองหนาว ส่วนใหญ่จะจำหน่าย ตามซุปเปอร์มาเก็ต สาขาใหญ่ๆ แต่ว่าที่ประเทศ สหรัฐอเมริกานั้น เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ผู้สูงอายุ เพราะผลการวิจัยพบว่า การกินผลไม้ชนิดนี้จะทำให้สุขภาพแข็งแรง และช่วยในเรื่องของความจำโดยผลไม้กลมๆ เล็กๆ สีน้ำเงินเข้มนี้ มีสาร anti-oxidant อยู่ในระดับสูงด้วย สาร anti-oxidant นั้น เป็นสารเคมีที่ต่อต้านการอักเสบ ช่วยต่อสู้ภาวะการแก่ตัวหรือชะลอความแก่ และอาจช่วยป้องกันโรคมะเร็ง นักวิจัยบอกว่ายิ่ง Blueberry ป่าด้วยแล้ว มีระดับสาร anti-oxidant สูงมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นใด


ประโยชน์ของบลูเบอรี่

- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง ที่ช่วยต้านการทำลายเซลล์ของร่างกาย 
-มีปริมาณใยอาหารสูงโดยเฉพาะเพคติน ที่ทำหน้าที่ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลใน เลือด 
- ช่วยดูแลเส้นเลือดฝอยให้แข็งแรง 
- ช่วยชะลอความแก่ บำรุงร่างกายและช่วยให้ความจำดีขึ้นในคนชรา 
-มีส่วนช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายสูงวัย โดยจะมีผลให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น

 100% Pomegranate Blueberry & Grape Juice

บลูเบอร์รี่และแอนติออกซิแดนท์

แอนติ ออกซิแดนท์เป็นสารที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของร่างกายช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับวัย ผลไม้สด รวมถึงบลูเบอร์รี่ และผักต่างๆ ประกอบไปด้วยสารแอนติออกซิแดนท์ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น วิตามินCและE. บลูเบอร์รี่1 ถ้วยจะมี VitaminC 14มิลลิกรัม และ วิตาิิมินE 0.8 มิลลิกรัม มากไปกว่านั้นบลูเบอร์รี่ยังมีสาร anthocyanins และ phenolics ซึ่งสามารถทำหน้าที่เหมือนแอนตี้ออกซิแดนท์ ตามข้อมูลอ้างอิงจาก USDA สถาบันวิจัยโภชนาการทางด้านสรีระศาสตร์ บลูเบอร์รี่จัดเป็นผลไม้ที่มีแอนติออกซิแดนท์สูงที่สุด ผลทดสอบค่าที่เรียกว่า "ORAC" (Oxygen Radical Absorbance Capacity) นักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าบลูเบอร์รี่สดให้สารแอนติออกซิแดนท์มากกว่าผลไม้ สดอื่นและผักต่างๆ



อ้างอิงจาก : http://benefit-of-blueberry.blogspot.com/
                    http://www.pooyingsmart.com/health1.htm