บล็อคประกอบการเรียนการสอนวิชา อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก 5 อันดับ

“โลนลี แพลนเน็ต” เผย 5 อันดับประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2011 ซึ่งพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว และนายโทนี่ วีลเลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “โลนลี แพลนเน็ต” โดย


อันดับที่ 1. สาธารณรัฐแอลเบเนีย


    แอลเบเนีย ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดเซอร์เบียและมอนเตเนโกร ทิศตะวันออกติดมาซิโดเนีย ทิศใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกรีซ ทิศตะวันตกติดทะเลเอเดรียติกและทะเลไอโอเนียน มีเมืองหลวงชื่อ “กรุงติรานา”

เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ดินแดนที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลข่านถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่อง เที่ยวสำหรับคนใจกล้า และมีเพียงสุดยอดผู้กล้าเท่านั้นที่อาจหาญเดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย

แต่หลังจากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มแบคแพค เกอร์เดินทางไปเยือนประเทศแอลเบเนีย ก็เริ่มมีเสียงร่ำลือกันแบบปากต่อปากถึงหาดทรายที่สวยงาม อาหารแสนโอชะ โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน การท่องเที่ยวผจญภัยในราคาสบายกระเป๋า แถมยังเดินทางท่องเที่ยวแบบ “ไปตายเอาดาบหน้า” โดยที่ไม่มีการวางแผนหรือจองที่พักเอาไว้ล่วงหน้าได้อย่างสบายใจ เพราะชาวแอลเบเนียมีความเป็นมิตร และคิดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นของแปลกใหม่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนแอลเบเนียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    ปัจจุบัน การท่องเที่ยวแอลเบเนียได้ประกาศแคมแปญ ‘A New Mediterranean Love’ โดยชูมรดกโลก ธรรมชาติที่สวยงาม ความเป็นมิตรของผู้คน วิถีชีวิตในเมืองใหญ่ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจเป็นจุดขาย ส่งผลให้เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในวงกว้าง


อันดับที่ 2 สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล


บราซิล ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีอาณาเขตติดกับทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ยกเว้นชิลีและเอกวาดอร์ มีขนาดใหญ่สุดในลาตินอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับ 5ของโลก เมืองหลวงชื่อ “กรุงบราซิเลีย”
บราซิลมีชื่อเสียงในเรื่อง การเต้นแซมบ้า สโมสรฟุตบอล  โลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์  เทศกาลคาร์นิวาล และงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่สุดยิ่งใหญ่ แต่ชาวบราซิลยังมีเรื่องน่าดีใจให้เฉลิมฉลองเพิ่มมากขึ้น หลังได้รับเลือกให้เป็นทั้งเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟีฟ่าเวิลด์คัพในปี ค.ศ.2014(พ.ศ. 2557) และกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559)

   ปัจจุบัน บราซิลมีแผนปรับปรุงประเทศครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาระดับโลกทั้ง 2 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งยังเตรียมเพิ่มจำนวนห้องพักโรงแรมไว้รองรับนักท่องเที่ยวและแฟนกีฬาทั่วโลกอีกหลายพันห้อง
ที่สำคัญ สายการบินโลว์คอสต์ในประเทศบราซิล ต่างพากันงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด จึงทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศในประเทศบราซิล มีราคาไม่สูงจนเกินเอื้อม

อันดับที่ 3 สาธารณรัฐเคปเวิร์ด

     เคปเวิร์ด เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก (นอกชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา) อยู่ห่างจากสาธารณรัฐเซเนกัลทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร ประกอบด้วย เกาะใหญ่ 10 เกาะ และเกาะเล็ก 5 เกาะ เมืองหลวงชื่อ กรุงไปรอา

ที่ผ่านมา เคปเวิร์ดไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือคุ้นหูในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ระยะหลังๆ ประเทศหมู่เกาะแห่งนี้เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปมากขึ้น จนชาวเคปเวิร์ดเองก็ยังนึกแปลกใจว่าประเทศของตนมีดีอะไร นักท่องเที่ยวจึงพากันดั้นด้นเดินทางไปเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ

คำตอบก็คือ…ประเทศนี้มีภูเขาสูงชันสีเขียว ที่สวยงามแปลกตา, ยอดภูเขาไฟสูงเทียมเมฆ, กีฬาทางน้ำระดับเวิลด์คลาส, เทศกาลสุดเร้าใจ ฯลฯ แต่สิ่งที่โดนใจนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นพิเศษก็คือ มี “แสงแดด” ตลอดทั้งปี และมีหาดทรายอ่อนนุ่ม จึงเหมาะสำหรับเดินทางไปเที่ยว “หนีหนาว” ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวเคปเวิร์ดจึงโปรโมทประเทศของตนว่าเป็น “หมู่เกาะคานารีแห่งใหม่” เทียบชั้น “หมู่เกาะคานารี” ของประเทศสเปนเลยทีเดียว

อันดับที่ 4 สาธารณรัฐปานามา

   ปานามา ตั้งอยู่ในส่วนที่แคบที่สุดของอเมริกากลาง ทิศเหนือติดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศใต้ติดทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดคอสตาริกา ส่วนทิศตะวันออกติดโคลอมเบีย มีเมืองหลวงชื่อ ปานามาซิตี้

ปานามา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วสุดในแถบลาตินอเมริกา ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของปานามาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลประกาศลดราคาและภาษีให้ผู้มาเยือน ตลอดจนผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ

   นอกจากนี้ ปานามายังมีจุดขายหลายอย่างโดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่างๆ กิจกรรมเดินป่า อีโคทัวร์ โบราณสถาน กระท่อมพื้นทรายที่กูนายาลา และเนื่องจากพื้นที่หลายแห่งในปานามายังคงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่ไม่ได้รับ การพัฒนา บางเส้นทางจึงต้องเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ หรือไม่ก็รถบัสเป็นระยะทางไกลๆ

และในปีหน้าเมืองใหญ่อย่าง “ปานามาซิตี้” จะได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีเขียว เพราะเป็นที่ตั้งของ “ไบโอ มิวเซียม” ที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของปานามา ทั้งยังมีสวนและสนามหญ้าริมถนนเลียบชายฝั่ง “ซินตา คอสเตรา” ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปจนถึง “กัสโกเวียโฮ” อีกด้วย

ปานามา ยังเป็นที่ตั้งของป่าดิบชื้น (นอกป่า่ลุ่มน้ำอะเมซอน) ขนาดใหญ่สุดในซีกโลกตะวันตก ซึ่ง มีพืชพรรณ สัตว์ป่า และนกอุดมสมบุรณ์ แถมพืชและสัตว์บางชนิดยังหาดูที่อื่นไม่ได้ เพราะมีถิ่นอาศัยอยู่ในปานามาเท่านั้น

     แม้ว่า “กบพิษสีทอง” ความยาว 1 นิ้วที่มีถิ่นอาศัยในป่าของประเทศปานามา จะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อราจนจำนวนลดลงอย่างฮวบฮาบ แต่ “ดาเรียง แก๊ป (Darién Gap)” ซึ่งเป็นป่ารกชัฏและพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่กั้นกลางระหว่างจังหวัดดาเรียงของปานามา (อเมริกากลาง) และประเทศโคลอมเบีย (อเมริกาใต้) ยังคงเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ที่ไม่เคยได้รับการพัฒนาและไม่มีการตัดถนนผ่านเหมือนเช่นเคย

    ความจริงแล้ว “ดาเรียง แก๊ป” เปรียบเสมือนประตูเชื่อมต่อระหว่างอเมริกาเหนือ กลาง และใต้เข้าด้วยกัน แต่ปัจจุบัน ทางการปานามาก็ยังไม่คิดที่จะตัดถนนในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลและสภาพภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย จึงทำให้ถนนสายแพน-แปซิฟิกที่ตัดผ่านอเมริกาเหนือ กลาง และใต้ ขาดตอนเป็นระยะทาง 87 ก.ม. แต่ยังคงเดินทางต่อได้โดยใช้รถจักรยานเสือภูเขา มอเตอร์ไซค์วิบาก หรือไม่ก็เดินเท้า ซึ่งจะต้องลุยป่า ลุยน้ำ และเส้นทางสูงชัน แถมยังมีแมลง และสัตว์เลี้อยคลานชุกชุม

นอกจาก “ดาเรียง แก๊ป” ที่เป็นป่ารกชัฏแล้ว ปานามายังมีเกาะรกร้างที่ไม่เคยได้รับการพัฒนา ไม่มีการตั้งชื่อ หรือไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เป็นจำนวนหลายเกาะด้วยกัน

อันดับที่ 5 สาธารณรัฐบัลแกเรีย

บัลแกเรีย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรบอลข่าน ทิศเหนือติดโรมาเนีย ทิศตะวันออกติดทะเลดำ ทิศตะวันตกติดเซอร์เบีย มอนเตเนโก และมาซิโดเนีย ทิศใต้ติดกรีซและตุรกี มีเมืองหลวงชื่อ กรุงโซเฟีย

ประเทศบัลแกเรีย มีจุดขายหลายอย่างที่โดนใจนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดในประเทศอย่าง “โซเฟีย”, ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ, สุดยอดลานสกีที่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ, หาดทรายสีทอง และเมืองท่าโบราณริมทะเลดำ

   ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บัลแกเรีย ถูกบดบังรัศมีโดยประเทศเพื่อนบ้านที่ล้วนแล้วแต่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ และมีชื่อเสียงมากกว่าอย่าง ตุรกี กรีซ และ โรมาเนีย แต่หลังจากรัฐบาลชุดปัจจุบันประสบความสำเร็จในการนำบัลแกเรียเข้าเป็นสมาชิก สหภาพยุโรป (อียู) ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

   ทุกวันนี้ บัลแกเรีย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในแถบยุโรปมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลานสกี” ที่เป็นจุดหมายปลายทางสุดฮอตของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่ต้องการท่องเที่ยว แบบถูกใจสบายกระเป๋า แต่ถ้าใครชอบเที่ยวทะเล ที่นี่ก็มีชายหาดริมทะเลดำให้นอนอาบแดด หรือถ้าชอบจิบไวน์ บัลแกเรียก็มีไวน์รสชาติเยี่ยม (ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ) ให้ลิ้มลองเช่นกัน


อ้างอิงจาก : http://paow007.wordpress.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น