วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554
หลากความรู้ด้านสุขภาพ
3 ท่านอน ลดอาการปวดหลัง
ความเครียด น้ำหนักส่วนเกิน การยกของผิดวิธี และท่านอนที่ไม่เหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังได้นะคะ คณะผู้เชี่ยวชาญจากมาโยคลินิก (Mayo Clinic) แนะนำ 3 ท่านอนที่จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังดังนี้ค่ะ
1. นอนตะแคงข้างก่ายหมอน นอนตะแคงข้างที่ถนัด หนุนหมอนที่ศีรษะตามปกติ งอเข่าทั้งสองข้างและวางหมอนหนุนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เข่าที่อยู่ด้านบนแตะที่นอน มิเชิ่นนั้นกระดูกสันหลังส่วนล่างจะพลิก ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดหลังและสะโพกได้
2. นอนหงายหนุนเข่า นอนหงายหนุนหมอนที่ศีรษะ ปล่อยตัวตามสบายโดยวางหมอนหนุนอีกใบไว้ใต้หัวเข่าทั้งสองข้าง เพื่อช่วยรักษาความโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ท่านี้เหมาะสำหรับผู้มีอาการปวดหลังที่ไม่รุนแรงมากนัก
3. นอนคว่ำหนุนหน้าท้อง หากคุณไม่สามารถนอนท่าอื่นๆ ได้ และจำเป็นต้องนอนคว่ำ ให้นอนหนุนหมอนบริเวณช่วงคอและหน้าอกส่วนบน โดยหันใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง และนำหมอนหนุนอีกใบวางไว้ใต้บริเวณสะโพก เพื่อผ่อนคลายความตึงของแผ่นหลัง และหากยังรู้สึกตึงหรือเจ็บปวดอยู่ให้นำหมอนหนุนที่ศีรษะออก ถนอมหลังของคุณโดยการยกสิ่งของด้วยท่าท่างที่ถูกต้อง และออกกำลังกายด้วยการรำกระบองเป็นประจำ เป็นวิธีป้องกันอาการปวดหลังได้ดีเยี่ยม
กินถั่วเมล็ดรูปไต ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
ถั่วเมล็ดรูปไต อันได้แก่ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วขาว ถั่วกันเนลกินี ถั่วปินโต และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่คนไทยอย่างเราๆ คุ้นเคยหาซื้อง่าย ราคาสบายกระเป๋า ก็คือ ถั่วแดง และถั่วดำ
สรรพคุณโดดเด่นของถั่วเมล็ดรูปไตคือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงกระดูก ลดระดับคอเลสเตอรอล รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยควบคุมน้ำหนัก เพราะเส้นใยที่มีมากในถั่วช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น ทำให้ร่างกายมีพลังงานสม่ำเสมอ
สารลิกแนน สารชาโปนิน และสารยับยั้งโปรทีเอสในถั่วเมล็ดรูปไต ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
Tips
• เพื่อลดปริมาณก๊าซของถั่วเมล็ดรูปไต จากคาร์ดบไฮเดรต ที่ชื่อ โอลิโกแซคคาไรด์ ควรนำถั่วไปแช่น้ำและเทน้ำทิ้งก่อนนำไปปรุงอาหาร
• เพิ่มความสะดวกในการนำถั่วมาประกอบอาหาร โดยการต้มถั่วครั้งละมากๆ แล้วแบ่งใส่ถุงเล็กๆ เก็บไว้ในช่องแช่แข็ง
• นำถั่วที่ต้มแล้วมาบดผสมกับน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไท ใช้ทาแซนด์วิชแทนมายองเนส ได้ประโยชน์พร้อมความอร่อย
อายุยืนได้ ด้วยใยอาหาร
เพราะนอกจากจะมีส่วนช่วยใน การทำงานของระบบขับถ่ายแล้ว งานวิจัยเรื่องหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า ใยอาหารยังมีส่วนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการป่วยเป็นโรคต่างๆ ลงได้
Yikyung Park นักวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า การกินอาหารซึ่งอุดมด้วยใยอาหารอย่างน้อยวันละ 25 กรัม หรือประมาณ 14 กรัม ต่อพลังงาน 1,000 แคลอรี่
นอกจากจะช่วยลดอัตราการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และมะเร็งบางชนิดได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อ และโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ งานวิจัยระบุว่า จะต้องเป็นใยอาหารที่ได้จากธัญพืช อาทิ เส้นสปาเกตตีโฮลวีต ข้าวบาร์เลย์ ถั่วฝักยาว ถั่วปากอ้า ถั่วดำ บรอคโคลี ฯลฯ เท่านั้น
4 สาเหตุ อาการอาหารไม่ย่อย
อาหารไม่ย่อย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการกิน
ลองมาเช็คกันค่ะว่า พฤติกรรมการกินดังกล่าวมีอะไรบ้าง
1.รีบ เร่งกินอาหาร ทำให้น้ำย่อยหลั่งได้น้อยลง รวมถึงเมื่อเร่งรีบกินจึงเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดแล้วกลืนทันที ทำให้เอนไซม์ในน้ำลายย่อยอาหารไม่ทัน
2.กินมากเกินไป ทำให้อาหารเต็มกระเพาะอาหาร จึงเสียเวลาย่อยนาน และทำให้เกิดการล้นของกรดในกระเพาะอาหาร
3.กิน ผลไม้หลังจากกินอาหารที่มีไขมันมาก โดยกระเพาะอาหารจะใช้เวลาในการย่อยไขมันช้ามาก ทำให้ผลไม้ที่กินเข้าไปทีหลังค้างอยู่นาน จนเริ่มบูดเน่าก่อนจะได้ย่อย จึงทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และมีอาการจุกแน่นท้องตามมา
4.ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มดังกล่าวจะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมามากเกินไป
ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารชีวจิต http://www.cheewajit.com/ภาพจากเว็บอินเตอร์เน็ต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น